ธุรกิจเครือข่าย เป็นการสร้างเครือข่ายของผู้บริโภค ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยง และไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆ ไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนรู้จัก ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตน เป็นการแนะนำต่อๆ กันเหมือนการโฆษณาปากต่อปาก ซึ่งจะช่วยให้รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าการโฆษณาผ่านตามสื่อต่าง ๆ เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค โดยเมื่อเกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้เจ้าของบริษัทของผลิตภัณฑ์นั้นๆ สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับผู้อื่นเป็นลำดับ
การทำการตลาดแบบเครือข่ายแบบใหม่นี้(หรือเรียกง่ายๆว่า เครือข่ายผู้บริโภค) จะใช้วิธีของการบอกต่อ ซึ่งจะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบเดิมๆ คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มจำนวนแบบไม่จำกัด โดยอาศัยเพียงการแนะนำสินค้าจากคนแนะนำ 1 คน แนะนำให้กับคนอื่นต่อ 2-3 คน หรือจะมากกว่านั้นก็ได้ และคนที่เราแนะนำ ก็จะทำแบบเดียวกับเรา คือ ใช้สินค้า ใช้ดี บอกต่อ.....ไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคสินค้าขึ้น ในลักษณะของพหุคูณ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัดของจำนวนผู้บริโภคนั้น จะทำให้เกิดรายได้ขึ้นแบบไม่จำกัดเช่นกัน ขึ้นอยู่กับแผนการตลาด หรือแผนการจ่ายเงินของแต่ละบริษัทที่แตกต่างกันออกไป
.............................................................
